💢 หนังสือเวียนที่ “มีสภาพเป็นกฎหรือคําสั่ง” ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ ที่อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง
คําสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 550/2547
หนังสือที่กระทรวงการคลังได้แจ้งเวียนให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและส่วนราชการได้รับทราบและถือปฏิบัติเป็นแนวทางในการจัดทําสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการที่ไปศึกษา ฝึกอบรม หรือปฏิบัติการวิจัย ณ ต่างประเทศ ต้องทําสัญญาเพิ่มเติมทุกครั้งเมื่อมีการอนุมัติให้ขยายระยะเวลาลาศึกษา เป็นบทบัญญัติที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไป จึงมีลักษณะเป็นกฎ ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ
คําสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 405/2551
หนังสือที่คณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้แจ้งเวียนมติที่ประชุมเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองปลัด อบจ. ให้แก่ อบจ. ทุกจังหวัดปฏิบัติตาม โดยกําหนดให้ผู้ที่เข้าสู่ตําแหน่งโดยไม่ได้ใช้วิธีการสอบคัดเลือกกลับคืนสู่สถานภาพ ในตําแหน่งและระดับเดิม ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า มีลักษณะเป็นข้อกําหนดที่ใช้เฉพาะกรณีการคัดเลือก ข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งรองปลัด อบจ. โดยวิธีการคัดเลือก ซึ่งมีผลทําให้ผู้ที่เข้าสู่ตําแหน่ง โดยไม่ได้ใช้วิธีการสอบคัดเลือกต้องกลับไปดํารงตําแหน่งเดิม จึงมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิและหน้าที่ อันมีลักษณะเป็นคําสั่งทางปกครองทั่วไป
💢 หนังสือเวียนที่ “ไม่มีสภาพเป็นกฎหรือคําสั่ง แต่เป็นเพียงมาตรการภายในของฝ่ายปกครอง หรือมีลักษณะเป็นการตอบข้อหารือเพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปอย่างถูกต้อง โดยไม่มีผลกระทบต่อสถานะทางกฎหมายหรือสิทธิหรือหน้าที่ทั้งต่อเจ้าหน้าที่ภายในฝ่ายปกครองและเอกชนซึ่งเป็นบุคคลภายนอก” ไม่อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง
คําสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 167/2559
หนังสือสํานักงาน ก.พ. ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2550 เรื่อง การปฏิบัติราชการชดใช้ตามระเบียบฯ พ.ศ. 2549 ที่ได้แจ้งเวียนให้กระทรวง ทบวง กรม จังหวัด ได้ทราบและถือปฏิบัติว่า “ข้าราชการผู้ได้รับ อนุมัติให้ไปศึกษาตามระเบียบฯ พ.ศ. 2512 และได้เสร็จสิ้นการศึกษาหรือยังไม่เสร็จสิ้นการศึกษา แต่กลับเข้า ปฏิบัติราชการชดใช้ก่อนหรือในวันที่ระเบียบฯ พ.ศ. 2549 จะมีผลใช้บังคับ การนับระยะเวลาปฏิบัติราชการ ชดใช้และการชดใช้เงินให้เป็นไปตามระเบียบฯ พ.ศ. 2512” หลักการดังกล่าวเป็นเพียงการอธิบายความหมายหรือตีความ ข้อ 29 ของระเบียบฯ พ.ศ. 2549 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการตีความ โดยไม่ได้ มีลักษณะเป็นการกําหนดหลักเกณฑ์ขึ้นใหม่ หรือเพิ่มเติมจากระเบียบหรือสัญญารับทุนที่มีอยู่เดิมระหว่าง ผู้ฟ้องคดีกับหน่วยงานต้นสังกัด “หนังสือเวียนดังกล่าวจึงมีสถานะเป็นเพียงมาตรการภายในของฝ่ายปกครอง” ที่ผู้ถูกฟ้องคดีกําหนดหลักการในการปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวเท่านั้น แม้หนังสือเวียนฉบับดังกล่าวจะมีสภาพบังคับต่อกระทรวง ทบวง กรม จังหวัด แต่สภาพ บังคับดังกล่าว ก็เป็นการใช้อํานาจควบคุมให้ปฏิบัติตามระเบียบหรือกฎหมายเท่านั้น มิได้เกิดจากการใช้อํานาจทางปกครองตามกฎหมายที่มีลักษณะ เป็นกฎ คําสั่ง หรือการกระทําอื่นซึ่งอาจนํามาฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ จึงไม่อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง
คําสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 841/2555
หนังสือที่กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งเวียนผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ทราบและถือปฏิบัติเกี่ยวกับการนําเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปจ่ายเป็นเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ โดยให้ดําเนินการตามที่กําหนดไว้ในระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 มีลักษณะเป็นการอธิบายความการบังคับใช้ระเบียบ ให้เกิดความชัดเจนเพื่อให้ถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน หนังสือเวียนฉบับดังกล่าวจึงมีสถานะ “เป็นเพียงมาตรการภายในของฝ่ายปกครอง” ที่เป็นการใช้อํานาจกํากับดูแลควบคุมให้มีการปฏิบัติตามระเบียบหรือ กฎหมายเท่านั้น มิได้เป็นการใช้อํานาจทางปกครองตามกฎหมายที่มีลักษณะเป็นกฎ คําสั่ง หรือการกระทําอื่น ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ
คําพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 1521/2559
หนังสือที่สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งเวียนว่า ตําแหน่งรองผู้อํานวยการเขตพื้นที่ การศึกษาไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.) เป็นเพียงหนังสือการ“ตอบข้อหารือ” ของปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จึงเป็นขั้นตอนการดําเนินการภายในของผู้ถูกฟ้องคดีมิใช่การวินิจฉัยสั่งการตามกฎหมายและมิใช่คําสั่งทางปกครองที่มี ผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิของผู้ฟ้องคดีอย่างหนึ่งอย่างใด และหนังสือแจ้งเวียนว่าข้าราชการครูซึ่งการปฏิบัติ ที่ผ่านมาได้เสนอขอพระราชทานโดยเทียบระดับ 1 ถึงระดับ 11 ยังคงเทียบระดับและขอพระราชทาน ตามบัญชี 7 ต่อไปตามเดิม เป็นเพียงการอธิบายการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประจําปีพ.ศ. 2552 มิได้มีสถานะเป็นกฎหรือคําสั่งทางปกครองที่มีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดี
https://www.facebook.com/Mr.Administrative/?fref=nf
https://www.facebook.com/Mr.Administrative/?fref=nf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น